Tue. Jul 29th, 2025
Spread the love

‘เรายังไม่พบทางออก’: Sam Altman ชี้แจงเหตุใดการใช้ ChatGPT เป็นนักบำบัดจึงยังคงเป็นฝันร้ายด้านความเป็นส่วนตัว

ในยุคที่เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) อย่าง ChatGPT กำลังเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของเรามากขึ้นเรื่อย ๆ หลายคนอาจเริ่มจินตนาการถึงการนำ AI มาใช้ในงานที่ซับซ้อนและละเอียดอ่อน เช่น การบำบัดทางจิตใจ อย่างไรก็ตาม Sam Altman ซีอีโอของ OpenAI ได้ออกมาย้ำเตือนถึงข้อกังวลสำคัญที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข นั่นคือ ปัญหาด้านความเป็นส่วนตัว โดยระบุว่า “เรายังไม่พบทางออก” สำหรับประเด็นนี้ ทำให้การใช้ AI เป็นนักบำบัดส่วนตัวยังคงเป็นฝันร้ายที่คุกคามข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้

ความกังวลด้านข้อมูลและความเป็นส่วนตัวที่ยังคงอยู่

ประเด็นหลักที่ Sam Altman ชี้ให้เห็นคือความสามารถในการจัดการและปกป้องข้อมูลที่ละเอียดอ่อน ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการบำบัด ข้อมูลที่ผู้ป่วยเปิดเผยกับนักบำบัดนั้นเป็นข้อมูลส่วนบุคคลอย่างยิ่งยวดที่ต้องได้รับการคุ้มครองสูงสุด เมื่อข้อมูลเหล่านี้ถูกป้อนเข้าสู่ระบบ AI คำถามที่ตามมาคือ ข้อมูลจะถูกจัดเก็บอย่างไร? ใครสามารถเข้าถึงได้? และมีมาตรการป้องกันการรั่วไหลของข้อมูลมากน้อยเพียงใด? แม้ AI จะถูกออกแบบมาเพื่อเรียนรู้และปรับปรุงจากข้อมูล แต่การประมวลผลข้อมูลสุขภาพจิตที่ละเอียดอ่อนนั้นจำเป็นต้องมีมาตรฐานความปลอดภัยที่เข้มงวดเป็นพิเศษเพื่อป้องกันการนำข้อมูลไปใช้ในทางที่ผิด หรือการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต

ขาดกรอบจริยธรรมและข้อบังคับที่ชัดเจน

การนำ AI มาใช้ในวงการสุขภาพจิตยังเผชิญกับความท้าทายด้านจริยธรรมและข้อบังคับทางกฎหมายที่ยังไม่ครอบคลุม ปัจจุบันยังไม่มีกรอบปฏิบัติที่ชัดเจนเกี่ยวกับวิธีที่ AI ควรจัดการกับข้อมูลผู้ป่วย หรือบทบาทของ AI ในการให้คำปรึกษาทางจิตวิทยา การไม่มีแนวทางที่ชัดเจนทำให้เกิดช่องโหว่ที่อาจนำไปสู่ความเสี่ยงด้านความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของข้อมูล ข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพจิตเป็นสิ่งที่ละเอียดอ่อนอย่างยิ่งยวด ซึ่งหากรั่วไหลออกไป อาจส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อชีวิตส่วนตัวและหน้าที่การงานของผู้ใช้ได้

ความสมดุลระหว่างนวัตกรรมกับความไว้วางใจ

ในขณะที่เทคโนโลยี AI มีศักยภาพในการเข้าถึงและช่วยเหลือผู้คนจำนวนมากที่ต้องการการสนับสนุนด้านสุขภาพจิต แต่การสร้างความไว้วางใจเป็นสิ่งสำคัญ AI สามารถให้การตอบสนองที่ดูเหมือนเข้าอกเข้าใจได้ในระดับหนึ่ง แต่ความไว้วางใจที่แท้จริงในบริบทของการบำบัดนั้นมาจากความมั่นใจว่าข้อมูลส่วนตัวจะถูกเก็บเป็นความลับและปลอดภัยอย่างสูงสุด ตราบใดที่ OpenAI และบริษัท AI อื่น ๆ ยังไม่สามารถ “หาทางออก” ที่เป็นรูปธรรมและมั่นคงเพื่อรับรองความปลอดภัยของข้อมูล Altman ชี้ว่าการใช้ AI เป็นนักบำบัดจะยังคงเป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ

สรุปได้ว่า แม้ปัญญาประดิษฐ์จะมีความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วและมีศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงการดูแลสุขภาพจิต แต่ประเด็นเรื่อง ความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของข้อมูล ยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญที่ต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน ก่อนที่ ChatGPT หรือ AI อื่นๆ จะสามารถก้าวเข้ามามีบทบาทในฐานะ “นักบำบัด” ได้อย่างเต็มตัว การพัฒนาเทคโนโลยีต้องควบคู่ไปกับการสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ใช้ว่าข้อมูลที่ละเอียดอ่อนที่สุดของพวกเขาจะได้รับการปกป้องอย่างเคร่งครัด นี่คือบทบาทสำคัญที่ผู้นำในวงการเทคโนโลยีอย่าง Sam Altman และ OpenAI ต้องรับผิดชอบในการสร้างมาตรฐานความปลอดภัยใหม่ เพื่อให้ เทคโนโลยี AI สามารถเป็นส่วนหนึ่งของการดูแล สุขภาพจิต ได้อย่างแท้จริงและปลอดภัยสำหรับทุกคน

#ข่าวสาร #เทคโนโลยี #AI #ChatGPT #SamAltman #ความเป็นส่วนตัว #สุขภาพจิต #ความปลอดภัย #ข้อมูลส่วนบุคคล

ติดต่อเรา: คลิ้ก

ข่าวสาร,เทคโนโลยี,AI,ChatGPT,SamAltman,ความเป็นส่วนตัว,สุขภาพจิต,ความปลอดภัย,ข้อมูลส่วนบุคคล

Loading

By tikky

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *