Thu. Jan 23rd, 2025
Spread the love

โรคเก๊า (Gout) เป็นโรคที่เกี่ยวกับภูมิคุ้มกันที่ผิดปกติ ซึ่งส่งผลให้เกิดการสะสมของกรดยูริกในร่างกาย ซึ่งกรดยูริกเป็นผลของการย่อยสลายของสารตะกั่วซึ่งเกิดขึ้นเมื่อร่างกายย่อยสลายพรอทีน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอาหารที่บริโภค เมื่อกรดยูริกสะสมมากเกินไปจะทำให้เกิดอาการอักเสบและอาการปวดเฉพาะในข้อ โรคนี้ส่วนใหญ่พบได้ในคนที่มีอายุกว่า 40 ปีขึ้นไปและมักพบมากขึ้นในผู้ชาย

สาเหตุ

สาเหตุหลักของโรคเก๊าคือการสะสมของกรดยูริกในเลือด ซึ่งอาจเกิดจากปัจจัยหลายอย่าง เช่น:

  1. การบริโภคอาหารที่มีปริมาณพรอทีนสูง เช่น เนื้อสัตว์ที่มีไขมันสูง อาหารหรือเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลหรือแป้งสูง เช่น เบียร์และเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
  2. การดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป
  3. โรคที่ทำให้มีการปลดปล่อยกรดยูริกมากขึ้น เช่น โรคไตวายเรื้อรัง หรือโรคตับ
  4. การใช้ยาบางชนิด เช่น ยาลดคอเลสเตอรอลหรือยาลดแรงดันโลหิต ที่อาจส่งผลให้เกิดการสะสมของกรดยูริกในร่างกาย

อาการ

  • อาการปวดที่ข้อ บ่องตาของมือ ข้อบ่องตาเท้า หรือข้ออื่น ๆ
  • บวมแดงและร้อน โดยอาจมีอาการเพิ่มขึ้นเมื่อมีการสัมผัสหรือเคลื่อนไหว
  • อาการปวดเฉพาะที่จะมีอาการรุนแรงขึ้นในช่วงดึกถึงกลางคืน

การวินิจฉัย

แพทย์อาจใช้วิธีตรวจการตรวจวินิจฉัยโรคเก๊าได้แก่:

  1. การทำการตรวจเลือดเพื่อวัดระดับกรดยูริก
  2. การฉีดสารหรือการตรวจเลือดที่มีเซียมในเลือดเพื่อตรวจวินิจฉัยโรคเก๊า
  3. การรังสีเพื่อตรวจเช่น การซีแอ็กซ์เรย์ หรือการทำพรอทีนกราม

การรักษา

การรักษาโรคเก๊าจะมุ่งเน้นที่การบริหารจัดการอาหารและการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม รวมถึงการใช้ยาเพื่อลดการสะสมของกรดยูริก โดยสามารถรวมถึง:

  1. การลดปริมาณอาหารที่มีพรอทีนสูง เช่น เนื้อสัตว์ที่มีไขมันสูง อาหารหรือเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลหรือแป้งสูง เช่น เบียร์และเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
  2. การดื่มน้ำมากๆ เพื่อช่วยลดการสะสมของกรดยูริกในร่างกาย
  3. การใช้ยาต้านการสะสมของกรดยู

Loading

By tikky

Related Post

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *